ขั้นตอนในการทำ CT Scan

การเตรียมตัว

ผู้ป่วยควรซักถามถึงข้อสงสัยที่มี เช่น สาเหตุ ความจำเป็น ความเสี่ยง และประโยชน์ที่ได้จากการตรวจด้วย CT Scan
ก่อนการตรวจ ผู้ป่วยควรสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่ไม่มีส่วนประกอบของโลหะ เช่น ซิป เข็มขัด ถอดแว่นตา ฟันปลอม
และไม่สวมใส่เครื่องประดับใด ๆ ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจต้องเปลี่ยนใส่ชุดที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ เพื่อความสะดวกต่อการฉายรังสีและการสร้างภาพ

สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการเอกซเรย์ช่องท้อง แพทย์อาจแนะนำให้งดอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนทำ CT Scan
เพื่อไม่ให้รบกวนผลการตรวจและเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน หรือแพทย์อาจให้รับประทานยาระบายก่อนการทำ CT Scan

ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ การแพ้ยา ปัญหา และภาวะทางสุขภาพอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น

  • กำลังตั้งครรภ์ หรือคาดว่าอาจตั้งครรภ์อยู่
  • เป็นหอบหืด
  • เป็นโรคเบาหวาน และกำลังใช้ยาเมทฟอร์มิน (Metformin) — อาจต้องปรับเปลี่ยนการใช้ยา 1 วันก่อนทำ CT Scan
  • มีปัญหาเกี่ยวกับไต
  • ป่วยด้วยโรคหัวใจ หรือมีภาวะหัวใจล้มเหลว
  • เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดมัลติเพิล มัยอีโลมา (Multiple Myeloma)
  • มีความวิตกกังวลเป็นอย่างมากก่อนทำ CT Scan
  • เคยสวนแป้งแบเรียม (Barium Enema) เข้าทางทวารหนักแล้วทำการเอกซเรย์มาก่อนหน้าไม่เกิน 4 วัน
    — เนื่องจากแบเรียมจะปรากฏบนฟิล์มเอกซเรย์ ทำให้เห็นภาพฉายได้ไม่ชัดเจน
  • เคยมีประวัติการแพ้สารทึบรังสีที่ใช้ในการทำ CT Scan

ในผู้ป่วยบางราย แพทย์อาจให้สารทึบรังสี (contrast material) เพื่อช่วยให้ภาพในบริเวณที่ต้องการตรวจเห็นได้ชัดขึ้น
วิธีที่ใช้ได้แก่ ดื่มสารทึบรังสี, ฉีดสารทึบรังสีเข้าสู่เส้นเลือด, หรือสอดสารทึบรังสีเข้าสู่ลำไส้ผ่านทางทวารหนัก

หากผู้ป่วยมีความวิตกกังวลมาก แพทย์อาจให้ยาระงับประสาทเพื่อคลายความกังวลก่อนการเอกซเรย์
ผู้ป่วยที่ได้รับยาดังกล่าวต้องเตรียมให้ญาติหรือบุคคลใกล้ชิดมารับกลับหลังจากเสร็จขั้นตอน
เนื่องจากฤทธิ์ของยาจะทำให้ไม่สามารถขับขี่ยานพาหนะได้ตามปกติ

การทำ CT Scan

เมื่อเริ่มทำ CT Scan ผู้ป่วยต้องนอนราบบนเตียงของเครื่องสแกน เตียงจะเคลื่อนเข้าไปภายในเครื่อง
ให้บริเวณที่ต้องการสแกนอยู่ตรงกับวงแหวนสแกน เครื่องจะเริ่มสแกนโดยการหมุนเพื่อฉายรังสีเอกซเรย์ไปรอบ ๆ ตัวผู้ป่วย
คอมพิวเตอร์จะฉายภาพออกมาเรื่อย ๆ ผู้ป่วยควรผ่อนคลาย นอนราบนิ่ง ๆ และหายใจตามปกติ
ในบางกรณีผู้ป่วยอาจต้องหายใจเข้า หายใจออก หรือกลั้นหายใจตามคำสั่ง เพื่อให้ภาพชัดเจนขึ้น
ระหว่างการสแกน ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับทีมแพทย์ผ่านอินเตอร์คอม และการสแกนอาจใช้เวลาประมาณ 10–20 นาที

ผลการตรวจ CT Scan

หลังการตรวจเสร็จ คอมพิวเตอร์จะประมวลภาพออกมา รังสีแพทย์จะอ่านผลและรายงานต่อแพทย์ผู้ดูแล
แพทย์จะสรุปผลการตรวจและพูดคุยกับผู้ป่วย ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์

ตัวอย่างผลการตรวจด้วยวิธี CT Scan

ตรวจไม่พบผลผิดปกติ

  • อวัยวะต่าง ๆ และเส้นเลือดมีรูปร่าง ขนาด และตำแหน่งปกติ
  • เส้นเลือดไม่อุดตันหรือถูกปิดกั้น
  • ไม่พบวัตถุหรือสิ่งแปลกปลอม
  • ไม่พบเนื้อเยื่อที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติ
  • ไม่พบการอักเสบหรือการติดเชื้อ
  • ไม่มีเลือดออกหรือของเหลวตกค้างสะสมภายในอวัยวะ

ตรวจพบผลผิดปกติ

  • อวัยวะมีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป
  • อวัยวะเสียหายหรือติดเชื้อ
  • มีถุงน้ำหรือฝีในอวัยวะ
  • มีวัตถุหรือสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในอวัยวะ
  • มีนิ่วในไตหรือในถุงน้ำดี
  • หลอดเลือดแดงโป่งพอง
  • เส้นเลือดอุดตัน
  • มีลิ่มเลือดอุดตันในปอด
  • ลำไส้เล็กและท่อน้ำดีอุดตัน
  • ต่อมน้ำเหลืองขยายใหญ่ขึ้น
  • ลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ
  • มีรอยแตกหักของกระดูก
  • มีเนื้องอกหรือเนื้อเยื่อที่เจริญเติบโตผิดปกติในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ตับอ่อน ไต ต่อมหมวกไต ปอด กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ รังไข่ เป็นต้น